วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิเคราะห์เรื่องที่สืบค้น

       เรื่องวิธีการลดความอ้วนอย่างถูกต้อง คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการอดอาหาร กินอาหารให้นิดลงจะเป็นการลดความอ้วนที่เห็นผลที่สุดและรวมถึงการกินยาลดความอ้วนจำนวนมากๆแต่ความคิดนี้เป็นความคิดที่ผิดเพราะการอดอาหารทำให้ร่างกายขาดพลังงานและไม่ได้รับสารอาหารที่ครบหมู่และการกินยาถ้าหากกินมากเกินไปอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ วิธีการที่ถูกต้องคือควรที่จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเช่นอย่างอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ไม่กินอาหารมากจนเกินพอดีกินผักและผลไม้ รับประทานอาหารให้ครบหมู่และกินอาหารให้ครบทุกมื้อไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง กินขนมหรือของกินเล็กน้อยๆให้น้อยลงหรือไม่กินเลยจะเป็นการลดความอ้วนที่ดีที่สุด.

เขียนจดหมายสมัครงาน




14/21 หมู่3 ถนนกาญจนาภิเษก
แขวงดอกไม้ เขตประเวศ
กรุงเทพฯ 10250

27 สิงหาคม 2555

เรื่อง ขอสมัครงานตำแหน่งฝ่ายประชาสัมพันธ์
เรียน ผู้จัดการบริษัท ที.เอน จำกัด
สิ่งที่ส่งมาด้วย รายระเอียดส่วนตัว 1 ฉบับ
     
                  ดิฉันทราบจากโฆษณารับสมัครงานในหนังสือพิมพ์ว่าบริษัทของท่านต้องการรับสมัครพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์จำนวน 1 ตำแหน่ง ดิฉันมีความสนใจขอสมัครงานเข้ารับการพิจารณาบรรจุในตำแหน่งดังกล่าว


                  ดิฉันได้สางรายละเอียดส่วนตัว ตลอดจนประวัติการศึกษามาพร้อมกับจดหมายฉบับนี้แล้ว ในช่วงที่ศึกษาอยู่ในคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ฯ ดิฉันได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมของทางคณะและทางมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอจึงทำให้มั่นใจว่าจะปฏิบัติงานของท่านได้เป็นอย่างดี


 
                  ดิฉันพร้อมที่จะให้ท่านสัมภาษณ์รายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความกรุณาจากท่าน


                                   
                                    ขอแสดงความนับถือ




                                     นางสาวอรยา ฒนกุล
                                     (นางสาวอรยา ฒนกุล)

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เขียนบทความ

วิธีการกำจัดความเหงา
      :โดยวิธีการกำจัดความเหงามีอยู่ 5 วิธีคือ

1. ทำสิ่งที่บันเทิงใจ
       โดยคนเราทุกคนจะต้องมีงานอดิเรกด้วยกันทุกคน เราก็ใช้เวลาที่ไม่มีอะไรทำนั้นทำงานอดิเรกของเราเพราะมันจะทำให้เราลืมความเหงาไปเลยเพราะเราจะตั้งใจทำงานอดิเรกของเรามากจนไม่มีเวลาจะคิดถึงเรื่องความเหงาเลยหรือเราอาจจะหาอะไรที่เราสนใจรวมถึงการพักผ่อนเช่นการดูทีวี ดูหนัง ฟังเพลง หรือการเล่นคอมพิวเตอร์ไปเรื่อยๆดูข่าวสารสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ก็เป็นการลืมความเหงาได้ดีเช่นกัน.

2. สร้างความตื่นเต้นดีใจแก่ตนเอง
        การสร้างความตื่นเต้นให้แก่ตนเองนั้นก็เป็นวิธีการกำจัดความเหงาได้ดีเพราะความตื่นเต้นนั้นมันจะทำให้เราคิดตลอดเวลาว่ามันจะก็อะไรขึ้นต่อไป มันจะเป็นยังไง จนไม่ทำให้คิดถึงความเหงาและการตื่นเต้นดีใจก็จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขและจะไม่ทำให้ชีวิตเราจืดชืดจนเกินไปทำให้ชีวิตมีสีสันมีความสนุกมากขึ้นและรู้สึกได้ว่าร่างกายของเรากระชับกระเชงมากขึ้นมีความสุขและรู้สึกกระปี้กระเป่าด้วยเพราะฉะนั้นมันก็จะทำให้เรารู้สึกดีและไม่เหงา.

3. ทำทุกอย่างให้เต็มที่
       การที่เราเหงาก็เพราะเราไม่ทำงานของเราให้เต็มที่เราก็จะไม่เห็นถึงความสำเร็จเราจะไม่เชื่อว่าสิ่งที่เรากำลังทำนั้นมีค่าแต่อย่าลืมว่าทุกอย่างในชีวิตมันมีผลต่ออนาคตหมดทุกอย่าง ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างเเล้วถ้าเราไม่ท้อแท้ที่จะทำไปซะก่อนชีวิตเราก็จะประสบความสำเร็จและส่งผลไปถึงอนาคตชีวิตก็จะมีความสุขไม่มีความทุกข์ฉะนั้นมันก็จะกำจัดความเหงาเช่นกัน.

4. ดูแลและรักตัวเอง
        การที่เราจะกำจัดความเหงาก่อนอื่นเราต้องเริ่มต้นที่เราจะต้องกำจัดความเหงาไปจากใจตัวเองก่อนโดยการที่เราหาอะไรทำอย่างงานอดิเรกเช่นการแต่งหน้าเสริมสวยสำหรับบางคนอาจทำให้ตัวเองรู้สึกดีทำให้จิตใจเเจ่มใสก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราดูสดใสมากขึ้นการที่เรารักตัวเองมันก็จะทำให้เราสดใสรู้สึกดีพอเรารู้สึกดีแล้วความเหงามันจะถูกทำลายไปเองเพราะมันจะมีความสุขเข้ามาเเทรงแทน.

5. ทักทายเพื่อนๆน้องๆรอบข้างที่ดีกับเรา
         การทักทายคนรอบข้างการคุยกับเพื่อนคุยกับผู้คนวิธีนี้ดูจะเป็นวิธีที่สุดที่จะกำจัดความเหงาออกไปเพราะเราจะมีสมาธิอยู่กับแค่การคุยกับคนอื่นเท่านั้นจนลืมความเหงาไปจริงๆและถ้าหากเราคุยกับคนมากเราก็จะมีเพื่อนมากตามไปด้วยเพราะฉะนั้นความเหงาของเราจะหายไปเรื่อยๆ รวมถึงการคุยกับคนในครอบครัวพ่อแม่ด้วยเช่นกัน เพราะพ่อแม่จะเป็นบุคคลที่เราเชื่อใจและสบายใจเวลาคุยด้วยมากที่สุดเราสามารถคุยเรื่องต่างๆได้ตั้งแต่เรื่องที่ไม่มีสาระจนถึงปัญหาในชีวิตรวมถึงการปรึกษาเรื่องต่างๆกับเขาได้ทุกเรื่องมันจึงเป็นวิธีการกำจัดความเหงาได้ดีมาก.

        เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเรามีอาการเหงาขึ้นมาแล้วไม่รู้จะทำยังไงก็อาจจะลองใช้วิธีนี้ มันอาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย.








บทวิเคราะห์ทุกข์ของชาวนา

   ทุกข์ของชาวนาในบทกวี:เป็นบทความพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่แสดงให้เห็นถึงการเอาพระทัยใส่ความเข้าพระทัยในปัญหาต่างๆ ตลอดจนพระเมตตาของพระองค์ที่ทรงมีต่อชาวนา มีลักษณะคำประพัณธ์ คือ ร้อยแก้วประเภทบทความ ความเป็นมามีที่มาจากหนังสือรวมบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่องมณีพลอยร้อยแสงซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดพิมพ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2533 โดยบทความนั้นแสดงให้เห็นแนวพระราชดำริเกี่ยวกับบทกวีของไทยและจีนที่กล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ของชาวนาที่มีสภาพชีวิตไม่ได้แตกต่างกันนัก.

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556




ที่มา:http://www.bunnarak.com/index.php?PHPSESSID=451e6687a745135945614375cb2d99f4&topic=567.0

ทำไมถึงเลือกหัวข้อนี้: บทความนี้นี้เกี่ยวกับความรักมันแสดงให้เห็นว่าในโลกนี้มีคนพยายามในความรักแบบไหนบ้างดังในรูปนี้ที่มีทั้งคนที่มองอยู่ห่างๆ ทั้งคนที่ไม่พยายามทำอะไรเลย คนที่ให้ความรักกับคนๆเดียวไม่พอ คนที่ทำร้ายคนอื่นเพื่อให้ตัวเองได้ความรัก คนที่ยังโลเลในความรักอยู่เเละคนที่พยายามในความรักมากที่สุดแต่ความรักของเราจะเป็นแบบไหนนั้นอยู่ที่เราจะเลือกที่จะพยายามเเค่ไหนเพื่อให้ได้ความรักนั้นมา.

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ภารกิจที่1 วิเคราะห์มงคลชีวิต 38 ประการ

 มงคลชีวิต 3 ประการที่เลือกคือ

๑.ไม่คบคนพาล
   บทวิเคราะห์: คนพาลคือบุคคลที่ทำในสิ่งที่ไม่ดี ทำความผิดต่างๆทั้งการดื่มเหล้าการทำผิดศีลหรือการทะเลาะวิวาทกับผู้อื่นหรือเป็นบุคคลที่ชอบหาเรื่องผู้อื่นหรือเมื่อตนเองทำความผิดก็จะโยนความผิดนั้นให้กับคนอื่นและเมื่อเราเจอบุคคลประเภทนี้เราก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะคบหากับคนประเภทนี้เพราะคนประเภทนี้อาจจะทำให้เราหลงกระทำผิดไปกับเขาด้วยเพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะคบกับใครนั้นเราต้องดูให้ดีเสียก่อนว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่


๙. มีวินัย
    บทวิเคราะห์: การมีวินัยคือการที่เราต้องอยู่ในกฎระเบียบที่ตั้งไว้ไม่นอกลู่นอกทางและเคารพในกฎระเบียบนั้นไม่กระทำผิดกฎ เช่น การที่เราเป็นนักเรียนอยู่ในโรงเรียนนั้นเราก็ควรที่จะเคารพในกฎที่โรงเรียนที่ได้ตั้งไว้ไม่กระทำผิดกฎมีความเคารพในสถานที่ที่เราศึกษาและเราก็ควรที่จะทำตามกฎของสังคมด้วยเช่นกัน เพราะการที่เรามีวินัยนั้นจะเป็นการทำให้สังคมที่เราอยู่นั้นมีความสงบสุขและทำให้ผู้คนสามัคคีกันมากขึ้น


๑๑.บำรุงบิดามารดา
    บทวิเคราะห์: คือเราควรเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ไม่ทำให้พวกท่านต้องลำบากและไม่ทำให้ท่านเสียใจเราต้องดูแลท่านเมื่อยามที่ท่านลำบากและแก่เฒ่าเพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของท่านที่ท่านได้เลี้ยงเราจนเติบโตจนทุกวันนี้ เราควรทำให้ท่านภาคภูมิใจในตัวเราไม่ทำให้ท่านต้องเป็นห่วงและทำแต่สิ่งดีๆควรเชื่อฟังในคำสอนของท่านทุกคำและควรเคารพบิดามารดาของเรา

วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง

    เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้องประโยคนี้ทำให้คิดถึงการที่คนหลายๆคนออกความคิดเห็นต่างๆซึ่งอาจจะเหมือนกันบ้างหรือแตกต่างกันบ้างและสุดท้ายก็ใช้ความคิดเห็นที่คนส่วนมากคิดเห็นเหมือนๆกันมาเป็นข้อตัดสินซึ่งการใช้เสียงส่วนใหญ่ในความคิดของหนูถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพราะมันมาจากความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่เพราะฉะนั้นคนส่วนมากจะเห็นชอบด้วยและมันถือเป็นการตัดสินสิ่งต่างๆได้ดีและชอบธรรมมากที่สุดและทำให้คิดว่าในประเทศไทยของเรานั้นก็ได้ใช้เสียงส่วนใหญ่หรือได้ใช้ระบอบประชาธิปไตยในการตัดสินเช่นกัน เช่นในการเลือกตั้งใหญ่ๆต่างๆในประเทศไทยก็จะใช้เสียงของการที่ประชาชนไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งซึ่งถ้าพรรคการเมืองไหนได้เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนมากที่สุดพรรคนั้นก็จะชนะการเลือกตั้งนั้นไปและการออกความเห็นในการประชุมสภาของรัฐบาล เช่นการแสดงความคิดเห็นในการเลือกนโยบายต่างๆมาใช้ในประเทศซึ่งถ้าเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยในการใช้นโบายนี้รัฐบาลก็จะดำเนินการต่อเพราะได้ผ่านความคิดเห็นของทุกๆคนมาแล้วและทุกคนเห็นด้วยซึ่งการใช้ระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยยังทำให้คนในประเทศเท่าเทียมกันด้วยเพราะสิ่งต่างๆได้ผ่านมาจากเสียงส่วนใหญ่และการโหวดจากคนส่วนมากแล้วเพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดและยังทำให้การตัดสินใจที่ยากๆต่างๆง่ายลงไปและทำให้คนไทยไม่เป็นศัตรูกันเพราะการตัดสินใจทุกๆอย่างนั้นอยู่ที่การออกเสียงของคนส่วนใหญ่และทำให้ผลที่ออกมานั้นเป็นที่พอใจของทุกๆฝ่ายเพราะได้ตัดสินใจปัญหานั้นร่วมกันแต่ถ้าคนไม่ใช้เสียงส่วนใหญ่ในการตัดสินต่างฝ่ายก็ต่างที่จะใช้ความคิดเห็นของตนเองเป็นสิ่งเเรก ก็จะทำให้เกิดปัญหาเพราะตนก็จะคิดว่าสิ่งที่ตนเองคิดมาถูกต้องเสมอเเละก็จะทำให้ต่างคนต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันและก่อให้เกิดการขัดแย้งและไม่ถูกกันในที่สุดซึ่งถ้าคนในประเทศไม่ใช้เสียงส่วนใหญ่กันทุกคนก็จะทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวายไม่สงบสุขทะเลาะกันตลอดเพราะไม่เคยได้นำความคิดเห็นของตนมาตัดสินรวมกันเลยเพราะฉะนั้นการใช้เสียงส่วนใหญ่ถือว่าเป็นพื้นฐานในการตัดสินสิ่งต่างๆและถือเป็นระบบที่ดีที่สุดในการตัดสินใจร่วมกันรวมถึงในการทำสิ่งๆต่างๆร่วมกันด้วย